ทำความรู้จักกับ Operator ต่างๆ สำหรับสร้างสูตรคำนวณใน Excel

· กฎเกณฑ์เกี่ยวกับสูตรคำนวณ ใน Excel

o   เวลาพิมพ์สูตรคำนวณลงในเซล จะต้องขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย =(เท่ากับ) + หรือ – เสมอ (ปกติให้ใช้ =) เพื่อให้ Excel สามารถแยกได้ว่าเป็นสูตรคำนวณไม่ใช่ข้อความหรือตัวเลขธรรมดา เช่น ถ้าพิมพ์ว่า 2*3 เฉยๆ ก็จะกลายเป็นข้อความ “2*3” ไป ไม่ใช่สูตรที่นำ 2 มาคูณกับ 3

o   Operator แต่ละตัวมีระดับความสำคัญไม่เท่ากัน ถ้าจะให้คำนวณข้อมูลใดก่อน ให้ใส่วงเล็บ ( ) คร่อมไว้ โปรแกรมจะคำนวณสูตรในวงเล็บก่อนเสมอ และถ้าใส่วงเล็บหลายชั้นก็จะคำนวณจากชั้นในสุดออกมา

o   ระหว่าง operand และ operator จะพิมพ์ติดกันหรือมีช่องว่างคั่นกี่ช่องก็ได้ แต่ในสูตรที่ซับซ้อนควรใส่ช่องว่างคั่นเพื่อให้อ่านได้ง่ายขึ้น

o   ข้อความที่จะใช้เป็น operand ในสูตร ต้องอยู่ภายในเครื่องหมายคำพูด “” เสมอ มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นชื่อเซล

o   Operand ที่เป็นตัวเลขให้พิมพ์เข้าไปเหมือนปกติคือไม่ต้องใส่รูปแบบ เช่น 2300 ถูก แต่ 2,300 ผิด ส่วนจุดทศนิยมหรือเครื่องหมายลบจะใช้ได้ตามปกติ

o   ชื่อเซลที่จะใช้ในสูตรจะต้องเป็นชื่อเดิม หรือเป็นชื่อที่ตั้งไว้แล้ว ส่วนชื่อฟังก์ชั่นนอกจากจะต้องใช้ให้ถูกต้องแล้ว อาร์กิวเมนต์ (ที่อยู่ในวงเล็บท้ายฟังก์ชั่น) ก็จะต้องเป็นไปตามรูปแบบของแต่ละฟังก์ชั่น


<Key Word สำหรับค้นหาบทความนี้> สอน Excel, Excel ขั้นสูง, หลักสูตร Excel, คำนวณ Excel, อบรม Excel, เรียน Excel, สูตร Excel, Excel Advance