วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

ฟังก์ชั่นที่ควรรู้จักและควรใช้เป็น

ฟังก์ชั่นที่ควรรู้จักและควรใช้เป็นใน Excel

·       ฟังก์ชั่น IF

Function IF () จะใช้สำหรับทดสอบเงื่อนไขและตัดสินใจในการทำงาน ตามเงื่อนไขที่เรากำหนดลงไป ซึ่งจะใช้กับข้อมูลที่มีทางเลือกในการตัดสินใจหลายทาง โดยโปรแกรมจะนำเงื่อนไขไปทดสอบแล้วส่งค่ากลับเป็นตรรกศาสตร์ว่าจริง (True) หรือเท็จ (False) แล้วถ้าจริงให้ทำอะไรและถ้าเท็จจะให้ทำอะไร
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                =IF(logical_test,[value_if_true],[value_if_falsel)
logical_test            หมายถึง เงื่อนไขที่จะใช้ทดสอบ
value_if_true         หมายถึง ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงให้ทำอะไร อาจจะเป็น สูตร ตัวเลข หรือ ข้อความ ใดๆ
value_if_false        หมายถึง ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จให้ทำอะไร อาจจะเป็น สูตร ตัวเลข หรือ ข้อความ ใดๆ

** ฟังก์ชั่น IF จะใช้ได้สูงสุดไม่เกิน 7 ชั้น ต่อ 1 สูตร
** เมื่อเปิดฟังก์ชั่น IF จะตามด้วยเครื่องหมาย ( วงเล็บเปิดเสมอ ดังนั้นก็ต้องปิดด้วย ) วงเล็บปิด ให้ครบตามจำนวน IF ที่เปิดด้วย
** การพิมพ์สูตร IF ต้องพิมพ์ยาวต่อเนื่องติดกันในครั้งเดียวในจนกว่าจะจบสูตรแล้วจึงกด Enter


·       ฟังก์ชัน SUM

                เป็นฟังก์ชั่นที่ถูกนำมาใช้งานมากที่สุดฟังก์ชั่นหนึ่ง ทำหน้าที่ส่งกลับผลรวมของข้อมูลตัวเลข สามารถเรียกใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้อย่างรวดเร็วโดยการคลิกปุ่ม AutoSum
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                SUM(number1,number2,….)
number 1,number2,…    ตัวเลขที่จะนำมาบวกกัน หรืออ้างอิงไปยังเซล/ช่วงเซลที่จะนำข้อมูลมาบวกกัน โดยจำนวนอาร์กิวเมนต์มีได้ตั้งแต่ 1 ถึง 30 ตัว

·       ฟังก์ชั่น SUMIF

                เป็นฟังก์ชั่นส่งกลับค่าผลรวมแบบมีเงื่อนไข เช่น หาจำนวนพนักงานทั้งหมดในแผนกบัญชีที่มีเงินเดือนมากกว่า 20,000 บาท
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                SUMIF(range,criteria,sum_range)
                range                       ช่วงเซลที่จะนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับเงื่อนไขที่ระบุไว้
criteria                   เงื่อนไขที่ระบุไว้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมาย โดยเงื่อนไขนี้เป็นได้ทั้งตัวเลข นิพจน์ หรือข้อความ
                sum_range              ช่วงเซลข้อมูลที่จะนำมาหาผลรวมตามเงื่อนไขที่ระบุ

·       ฟังก์ชั่น COUNT

                เป็นฟังก์ชั่นส่งกลับจำนวนเซลทั้งหมดที่มีข้อมูลแบบตัวเลข ซึ่งจะรวมถึงจำนวนตัวเลยที่แสดงโดยตรงในอาร์กิวเมนต์ของฟังก์ชั่นด้วย
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                COUNT(value1,value2,…)
value1,value2,…           ค่าตัวเลข อาร์เรย์ หรือการอ้างอิงไปยังช่วงเซลที่มีค่าตัวเลขที่จะนำมานับจำนวน โดยจำนวนอาร์กิวเมนต์มีได้ตั้งแต่ 1 ถึง 30 อาร์กิวเมนต์
o   ถ้าอาร์กิวเมนต์เป็นค่าตัวเลข วันที่ ค่าตรรกะ หรือตัวเลขแบบข้อความ จะถูกนับรวมเข้าไปด้วย โดยอาร์กิวเมนต์ที่เป็นค่าผิดพลาดหรือข้อความที่ไม่สามารถแปลงเป็นตัวเลขจะไม่ถูกนับรวม
o   ถ้าอาร์กิวเมนต์เป็นอาร์เรย์ค่าคงที่หรือการอ้างอิงช่วงเซลเฉพาะค่าตัวเลขในอาร์เรย์ค่าคงที่หรือช่วงเซลนั้นที่จะถูกนับรวม โดยเซลว่าง ค่าตรรกะ ข้อความ และค่าความผิดพลาดต่างๆ จะไม่ถูกนับรวม

·       ฟังก์ชั่น  COUNTIF

                เป็นฟังก์ชั่นส่งกลับจำนวนเซลทั้งหมดที่ไม่ใช่ค่าว่างที่อยู่ในช่วงเซลที่ระบุ โดยกำหนดเงื่อนไขในการนับจำนวน
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                COUNTIF(range,criteria)
range                       อ้างอิงไปยังช่วงเซลที่ต้องการนำมานับจำนวนข้อมูลที่ไม่ใช่ค่าว่าง ตามเงื่อนไขที่กำหนดใน criteria
criteria                   เงื่อนไขที่อยู่ในรูปของตัวเลข ข้อความ หรือนิพจน์ เพื่อใช้เป็นตัวกำหนดว่าเซลใดบ้างที่จะถูกนับหรือไม่ถูกนับ

·       ฟังก์ชั่น DATE

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้แปลงตัวเลขวัน เดือน ปี ให้เป็นวันที่ (ถ้ากำหนดรูปแบบการแสดงผลเป็น General ไว้ก่อน เมื่อป้อนสูตรจะแสดงผลลัพธ์เป็นวันที่ เนื่องจาก Excel จะเปลี่ยนรูปแบบเป็น Date ให้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้ากำหนดรูปแบบเป็น Number หรือ General ในภายหลังจะแสดงผลลัพธ์เป็นเลขลำดับ)
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                DATE(year,month,day)
Year                        ตัวเลขปี ค.ศ. สามารถกำหนดได้ตั้งแต่ 1 หลัก ถึง 4 หลัก ถ้ากำหนดเลขปีน้อยกว่า 4 หลัก และระบบวันที่เป็นแบบ 1900 เช่น กำหนดตัวเลข year คือ 30 จะได้ปี ค.ศ. เท่ากับ 1930
Month1                   ตัวเลขแสดงลำดับของเดือน มีค่าตั้งแต่ 1 ถึง 12 เช่น 1, 2, 3 หมายถึงเดือนมกราคม, กุมภาพันธ์ และมีนาคม ตามลำดับ ถ้าตัวเลขมากกว่า 12 (ธันวาคม) Excel จะนำมาหารด้วย 12 เศษที่เหลือจะหมายถึงลำดับที่ของเดือนในปีถัดไป
Day                         ตัวเลขแสดงวันที่ใน 1 เดือน ถ้ามีค่ามากกว่าวันที่สุดท้ายของเดือนนั้น Excel จะนำจำนวนวันที่เกินมาเป็นวันที่ของเดือนถัดไป

·       ฟังก์ชั่น TIME

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้แปลงตัวเลขชั่วโมง นาที วินาที ให้เป็นเวลา (ถ้ากำหนดรูปแบบการแสดงผลเป็น General จะแสดงผลลัพธ์เป็นเวลา เนื่องจาก Excel จะเปลี่ยนรูปแบบให้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้ากำหนดรูปแบบเป็น Number  จะแสดงผลลัพธ์เป็นเลขลำดับ
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                TIME(hour,minute,second)
Hour                        ค่าตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 32767 โดยตัวเลข 0-23 จะเป็นค่าของชั่วโมง ส่วนตัวเลขที่มากกว่า 23 จะถูกหารด้วย 24 เศษที่เหลือจึงจะเป็นค่าของชั่วโมง
Minute                    ค่าตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 32767 โดยตัวเลข 0-59 จะเป็นค่าของนาที ส่วนตัวเลขที่มากกว่า 59 จะถูกแปลงให้เป็นชั่วโมงและนาที
Second                    ค่าตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 32767 โดยตัวเลข 0-59 จะเป็นค่าของวินาที ส่วนตัวเลขที่มากกว่า 59 จะถูกแปลงให้เป็นชั่วโมง นาที และวินาที ตามลำดับ

·       ฟังก์ชั่น NOW

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้แสดงวันที่และเวลาปัจจุบันของระบบ (วันที่และเวลาที่แสดงบนทาสก์บาร์ของวินโดวส์) ถ้ากำหนดรูปแบบการแสดงผลเป็น General เมื่อป้อนสูตรจะแสดงผลลัพธ์เป็นวันที่ เนื่องจาก Excel จะเปลี่ยนรูปแบบเป็น DATE ให้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้ากำหนดรูปแบบเป็น Number หรือ General ให้ภายหลัง จะแสดงผลลัพธ์เป็นเลขลำดับ โดยวันที่และเวลา (หรือเลขลำดับ) ที่ได้จากฟังก์ชั่น NOW จะถูกปรับปรุงเป็นวันที่และเวลาล่าสุดเมื่อกดคีย์ F9 เพื่อให้สูตรคำนวณค่าใหม่
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                NOW(  )

·       ฟังก์ชั่น TODAY

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้แสดงวันที่ปัจจุบันของระบบ การทำงานจะคล้ายกับฟังก์ชั่น NOW ต่างกันที่ฟังก์ชั่นนี้จะไม่แสดงเวลาด้วย ถ้ากำหนดรูปแบบการแสดงผลเป็น General ไว้ก่อน เมื่อป้อนสูตรจะแสดงผลลัพธ์เป็นวันที่ แต่ถ้ากำหนดรูปแบบเป็น Number หรือ General ในภายหลัง จะแสดงผลลัพธ์เป็นเลขลำดับ โดยวันที่ (หรือเลขลำดับ) นี้จะถูกปรับปรุงเป็นวันที่ล่าสุด เมื่อกดคีย์ F9 เพื่อให้สูตรคำนวณค่าใหม่
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                TODAY(  )

·       ฟังก์ชั่น  LEFT

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ในการส่งกลับอักขระตัวแรกที่อยู่ซ้ายสุดของข้อความ หรือส่งกลับกลุ่มอักขระที่นับจากซ้ายสุดของข้อความตามจำนวนที่ระบุ
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                LEFT (text,num_chars)
Text                      ข้อความ หรืออ้างอิงไปยังเซลที่มีข้อความที่ต้องการให้มีการส่งกลับ อักขระตัวแรกหรือกลุ่มอักขระ
                Num_chars           ระบุจำนวนอักขระที่ต้องการให้ส่งกลับจากข้อความใน text

·       ฟังก์ชั่น  RIGHT

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ในการส่งกลับอักขระสุดท้ายที่อยู่ขวาสุดของข้อความ หรือส่งกลับกลุ่มอักขระที่นับจากขวาสุดของข้อความตามจำนวนที่ระบุ
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                RIGHT (text,num_chars)
Text                        ข้อความในเครื่องหมาย  “ ”  หรืออ้างอิงไปยังเซลที่มีความความที่ต้องการให้มีการส่งกลับอักขระตัวแรกหรือกลุ่มอักขระ
                Num_chars             ระบุจำนวนอักขระที่ต้องการให้ส่งกลับจากข้อความใน text

·       ฟังก์ชั่น MID

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ส่งกลับกลุ่มอักขระที่ต้องการแยกออกจากข้อความตามตำแหน่งและจำนวนที่ระบุ
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                MID(text,start_num,num_chars)
Text                        ข้อความในเครื่องหมาย  “ ”  หรืออ้างอิงไปยังเซลที่มีความความที่ต้องการให้มีการส่งกลับอักขระตัวแรกหรือกลุ่มอักขระ
Start_num              ตัวเลขระบุตำแหน่งของอักขระตัวแรกที่ต้องการแยกออกจากข้อความโดยกำหนดให้ 1 หมายถึงอักขระตัวแรก
Num_chars             จำนวนอักขระที่ต้องการแยกออกจากข้อความ

·       ฟังก์ชั่น LEN

                เป็นฟังก์ชั่นส่งกลับจำนวนอักขระทั้งหมดในข้อความนั้น โดยอักขระจะรวมถึง ตัวเลข ตัวอักษร (สระ และวรรณยุกต์ ถ้าเป็นภาษาไทย) สัญลักษณ์ต่างๆ และช่องว่าง
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                LEN(text)
                Text                        ข้อความ หรืออ้างอิงไปยังเซลที่มีข้อความที่ต้องการนับจำนวนอักขระทั้งหมด

·       ฟังก์ชั่น FIND

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ค้นหาข้อความที่ต้องการจากข้อความอื่นๆ ที่ระบุ (อักขระต้องตรงกันทั้งตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก) แล้วส่งกลับค่าตัวเลขที่แสดงตำแหน่งของอักขระตัวแรกของข้อความที่ค้นพบ ตัวอย่างเช่น ให้ค้นหาข้อความ “First Sample” จากข้อความ “My First Sample” ฟังก์ชั่น FIND จะส่งกลับค่าตัวเลข 4 ซึ่งเป็นตำแหน่งของตัว “F” ถ้าฟังก์ชั่น FIND ไม่พบข้อความที่ต้องการ จะแสดงข้อผิดพลาด #VALUE!
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                FIND(find_text,within_text,start_num)
                Find_text                                ข้อความที่ต้องการค้นหา
                Within_text           ข้อความที่มีข้อความที่ต้องการค้นหา

Start_num              ตัวเลขระบุตำแหน่งอักขรุใน within_text ที่ต้องการให้เริ่มค้นหา โดยกำหนดให้ลำดับที่ 1 หมายถึงอักขระตัวแรกของ  within_text  ลำดับที่ 2 หมายถึงอักขระตัวที่สองของ within_text  และอื่นๆ ตามลำดับ โดยนับรวมช่องว่างด้วย ถ้าไม่ระบุ start_num ไว้จะหมายถึงลำดับที่ 1
ถ้า start_num          เป็นค่าติดลบหรือมีค่ามากกว่าจำนวนอักขระใน within_text  จะแสดงข้อผิดพลาด #VALUE!

·       ฟังก์ชั่น SUBSTITUTE

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้สำหรับการแทนที่ข้อความใดๆ ด้วยข้อความที่กำหนด การทำงานจะคล้ายฟังก์ชั่น REPLACE ต่างกันตรงที่ฟังก์ชั่น REPLACE จะแทนที่โดยการระบุตำแหน่งในข้อความเดิม แต่ฟังก์ชั่น SUBSTITUTE สามารถระบุข้อความที่จะให้ถูกแทนที่ได้โดยตรง
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                SUBSTITUTE (text,old_text,new_text,instance_num)
                Text                        ข้อความ หรืออ้างอิงไปยังเซลที่มีข้อความที่จะถูกแทนที่
                Old_text                 ข้อความบางส่วนใน text ที่ต้องการให้ถูกแทนที่ด้วยข้อความใหม่
                New_text                               ข้อความใหม่ที่ต้องการนำมาแทนที่ old_text
Instance_num        ตัวเลขระบุตำแหน่งของ old_text ที่ต้องการให้มีการแทนที่เกิดขึ้น เหตุที่ต้องระบุตำแหน่งเนื่องจากในบางกรณีอาจมี old_text ที่ซ้ำกันมากกว่า 1 ตำแหน่งในข้อความนั้น ถ้าไม่ระบุ instance_num ไว้จะมีผลให้ old_text ที่ซ้ำกันทุกตำแหน่งถูกแทนที่ทั้งหมด

·       ฟังก์ชั่น TRIM

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ตัดช่องว่างออกจากข้อความ (ยกเว้นช่องว่างระหว่างคำ) สามารถนำมาใช้ตัดช่องว่างที่มากเกินปกติออกไปจากข้อความได้ เช่น ข้อความที่นำเข้ามาจากโปรแกรมประยุกต์อื่นๆ ที่มีการเว้นวรรคระหว่างคำมากเกินไป เป็นต้น
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                TRIM(text)
                Text                        ข้อความ หรืออ้างอิงไปยังเซลที่มีข้อความที่ต้องการนำมาตัดช่องว่างที่เกินปกติ

·       ฟังก์ชั่น VLOOKUP

                เป็นฟังก์ชั่นค้นหาค่าในคอลัมน์แรกของตารางหรืออาร์เรย์ข้อมูล แล้วส่งกลับค่าที่อยู่ในคอลัมน์เดียวกันของแถวที่ระบุไว้
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                VLOOKUP(lookup_value,table_array,col_index_num,range_lookup)
Lookup_value                        ค่าที่ต้องการค้นหาจากคอลัมน์แรกหรือคอลัมน์ซ้ายสุดของตาราง ซึ่งเป็นได้ทั้งค่าตัวเลข ข้อความ หรือการอ้างอิงเซล
Table_array                           การอ้างอิงไปยังตารางที่ต้องการนำมาค้นหาข้อมูลที่ตรงกับ lookup_value ซึ่งการอ้างอิงนี้อาจใช้การอ้างอิงตำแหน่งช่วงเซลหรืออ้างอิงชื่อช่วงเซลก็ได้
Col_index_num                     หมายเลขคอลัมน์ใน table_array ที่ต้องการให้ส่งค่าที่ตรงกับ lookup_value กลับมา
o   ถ้า col_index_num เท่ากับ 1 จะส่งกลับค่าในคอลัมน์แรกของ table_array ถ้า col_index_num เท่ากับ 2 จะส่งกลับค่าในคอลัมน์ที่สองของ table_array และให้ผลทำนองเดียวกันสำหรับค่า col_index_num อื่นๆ
o   ถ้า col_index_num น้อยกว่า 1 จะแสดงข้อผิดพลาด #VALUE!
o   ถ้า col_index_num มากกว่าจำนวนคอลัมน์ทั้งหมดใน table_array จะแสดงข้อผิดพลาด #REF
Range_lookup                        ค่าตรรกะที่ระบุว่าจะให้ฟังก์ชั่น LOOKUP ค้นหาค่าที่ตรงกันอย่างแม่นยำหรือตรงกันโดยประมาณ
o  ถ้า range_lookup เป็น TRUE หรือละค่าไว้ ฟังก์ชั่น LOOKUP จะส่งกลับค่าที่ตรงกันอย่างแม่นยำ แต่ถ้าไม่พบจะส่งกลับค่าที่ตรงกันโดยประมาณ (ค่าที่ตรงกันโดยประมาณคือค่ามากที่สุดแต่น้อยกว่า Lookup_value)
o  ถ้า range_lookup เป็น FALSE ฟังก์ชั่น VLOOKUP จะส่งกลับค่าที่ตรงกันอย่างแม่นยำ ถ้าไม่พบจะแสดงข้อผิดพลาด #N/A

·       ฟังก์ชั่น HLOOKUP

                เป็นฟังก์ชั่นค้นหาค่าจากแถวแรกของตารางหรืออาร์เรย์ข้อมูล แล้วส่งกลับค่าที่อยู่ในคอลัมน์เดียวกันของแถวที่ระบุไว้
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                HLOOKUP(lookup_value,table_array,row_index_num,range_lookup)
Lookup_value                        ค่าที่ต้องการค้นหาจากคอลัมน์แรกหรือคอลัมน์ซ้ายสุดของตาราง ซึ่งเป็นได้ทั้งค่าตัวเลข ข้อความ หรือการอ้างอิงเซล
Table_array                           การอ้างอิงไปยังตารางที่ต้องการนำมาค้นหาข้อมูลที่ตรงกับ lookup_value ซึ่งการอ้างอิงนี้อาจใช้การอ้างอิงตำแหน่งช่วงเซลหรืออ้างอิงชื่อช่วงเซลก็ได้
o   ถ้า lookup_value มีค่าน้อยกว่าค่าที่เล็กที่สุดในแถวแรกของ table_array ฟังก์ชั่น HLOOKUP จะแสดงข้อผิดพลาด #N/A
Row_index_num                    หมายเลขแถวใน table_array ที่ต้องการให้ส่งค่าที่ตรงกับ lookup_value กลับมา
o   ถ้า row_index_num เท่ากับ 1 ฟังก์ชั่น HLOOKUP จะส่งกลับค่าในแถวแรกของ table_array ถ้า row_index_num เท่ากับ 2 จะส่งกลับค่าในแถวที่สอง table_array และให้ผลทำนองเดียวกันสำหรับค่า row_index_num อื่นๆ
o   ถ้า row_index_num น้อยกว่า 1 จะแสดงข้อผิดพลาด #VALUE!
o   ถ้า row_index_num มากกว่าจำนวนแถวทั้งหมดใน table_array จะแสดงข้อผิดพลาด #REF
Range_lookup                        ค่าตรรกะที่ระบุว่าจะให้ฟังก์ชั่น HLOOKUP ค้นหาค่าที่ตรงกันอย่างแม่นยำหรือตรงกันโดยประมาณ
o   ถ้า range_lookup เป็น TRUE หรือละค่าไว้ ฟังก์ชั่น HLOOKUP จะส่งกลับค่าที่ตรงกันอย่างแม่นยำ แต่ถ้าไม่พบจะส่งกลับค่าที่ตรงกันโดยประมาณ (ค่าที่ตรงกันโดยประมาณคือค่ามากที่สุดแต่น้อยกว่า Lookup_value)
o   ถ้า range_lookup เป็น FALSE ฟังก์ชั่น HLOOKUP จะส่งกลับค่าที่ตรงกันอย่างแม่นยำ ถ้าไม่พบจะแสดงข้อผิดพลาด #N/A

·       ฟังก์ชั่น ROUND

                เป็นฟังก์ชั่นปัดค่าตัวเลข โดยให้มีจำนวนหลักทศนิยมเท่ากับที่ระบุไว้ ถ้าตัวเลขมีค่าตั้งแต่ 5 ขึ้นไปให้ปัดขึ้น ถ้ามีค่าตั้งแต่ 4 ลงมาให้ปัดลง
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                ROUND (number,num_digits)
                Number                                  ตัวเลขที่ต้องการนำมาปัดเศษ
                Num_digits                            ตัวเลขทีใช้ระบุจำนวนหลักทศนิยมหรือความแม่นยำในการปัดเศษ
o   ถ้า num_digits มากกว่าศูนย์ จำนวนหลักทศนิยมหลังปัดเศษจะเท่ากับค่าที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น ROUND(25.1254,2) = 25.13
o   ถ้า num_digits เท่ากับศูนย์ จะปัดค่าตัวเลขเป็นจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด ตัวอย่างเช่น ROUND(25.1254,0) = 25
o   ถ้า num_digits น้อยกว่าศูนย์ ตัวเลขหน้าจุดทศนิยมจะถูกนำมาปัดค่าโดยไปทางซ้ายตามจำนวนหลักที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น ROUND(25.1254,-1) = 30

·       ฟังก์ชั่น ROUNDDOWN

                เป็นฟังก์ชั่นปัดค่าตัวเลขลงโดยให้มีจำนวนหลักทศนิยมเท่ากับที่ระบุไว้ การทำงานของฟังก์ชั่นนี้จะต่างกับฟังก์ชั่น ROUND ตรงที่ ROUNDDOWN จะปัดเศษลงเสมอ
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                ROUNDDOWN(number,num_digits)
                Number                                  ตัวเลขที่ต้องการนำมาปัดเศษ
                Num_digits                            ตัวเลขทีใช้ระบุจำนวนหลักทศนิยมหรือความแม่นยำในการปัดเศษ
o   ถ้า num_digits มากกว่าศูนย์ จำนวนหลักทศนิยมหลังปัดเศษจะเท่ากับค่าที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น ROUNDDOWN(25.1254,2) = 25.12
o   ถ้า num_digits เท่ากับศูนย์ จะปัดค่าตัวเลขเป็นจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด ตัวอย่างเช่น ROUNDDOWN(25.1254,0) = 25
o   ถ้า num_digits น้อยกว่าศูนย์ ตัวเลขหน้าจุดทศนิยมจะถูกนำมาปัดค่าโดยไปทางซ้ายตามจำนวนหลักที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น ROUNDDOWN(25.1254,-1) = 20

·       ฟังก์ชั่น ROUNDUP

เป็นฟังก์ชั่นปัดค่าตัวเลขขึ้นโดยให้มีจำนวนหลักทศนิยมเท่ากับที่ระบุไว้ การทำงานของฟังก์ชั่นนี้จะต่างกับฟังก์ชั่น ROUNDDOWN คือ จะปัดเศษขึ้นเสมอ                
รูปแบบฟังก์ชั่น
Number                  ตัวเลขที่ต้องการนำมาปัดเศษ
                Num_digits                            ตัวเลขที่ใช้ระบุจำนวนหลักทศนิยมหรือความแม่นยำในการปัดเศษ
o   ถ้า num_digits มากกว่าศูนย์ จำนวนหลักทศนิยมหลังปัดเศษจะเท่ากับค่าที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น ROUNDUP(25.1254,2) = 25.13
o   ถ้า num_digits เท่ากับศูนย์ จะปัดค่าตัวเลขเป็นจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด ตัวอย่างเช่น ROUNDUP(25.1254,0) = 26
o   ถ้า num_digits น้อยกว่าศูนย์ ตัวเลขหน้าจุดทศนิยมจะถูกนำมาปัดค่าโดยไปทางซ้ายตามจำนวนหลักที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น ROUNDUP(25.1254,-1) = 30    

·       ฟังก์ชั่น ISNUMBER       

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ตรวจสอบว่าข้อมูลนั้นเป็นค่าตัวเลขหรือไม่ ถ้าเป็นค่าตัวเลขจะส่งค่า TRUE กลับมา
รูปแบบฟังก์ชั่น                    
                                                ISNUMBER(value)
                Value                                      ค่าหรืออ้างอิงไปยังค่าที่ต้องการนำมาตรวจสอบ

·       ฟังก์ชั่น ISBLANK

                เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ตรวจสอบว่าข้อมูลนั้นเป็นค่าว่างหรือไม่ ถ้าเป็นค่าว่างจะส่งค่า TRUE กลับมา
รูปแบบฟังก์ชั่น
                                                ISBLANK(value)
                Value                                      ค่าหรืออ้างอิงไปยังค่าที่ต้องการนำมาตรวจสอบ

<Key Word สำหรับค้นหาบทความนี้> สอน Excel, Excel ขั้นสูง, หลักสูตร Excel, คำนวณ Excel, อบรม Excel, เรียน Excel, สูตร Excel, Excel Advance